http://www.banmuang.co.th/news/bangkok/95083
กระทรวงศึกษาฯรับนโยบายพัฒนาประเทศไทยทุกภูมิภาคเป็นพื้นที่พิเศษ ลดความเหลื่อมล้ำ นำทัพส่วนราชการทุกระดับ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ขยายผลจัดทำแผนบูรณาการด้านการศึกษาระดับภาค ดีเดย์อิสานภาคแรก ดึงจุดแข็งและโอกาสดันอิสานหลุดพ้นจากความยากจนสู่เป้าหมายการพึ่งตนเอง ตามเป้าหมายรัฐบาล
พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.กระทรวงศึกษาธิการ กล่าวในโอกาสการประชุมปฏิบัติการจัดทำแผนการศึกษาแบบบูรณาการระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ จ.อุดรธานี ว่า จากนโยบายของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญในการพัฒนาประเทศไทย ด้วยการเดินหน้าพัฒนาโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ให้ทุกพื้นที่ของประเทศไทยเป็นพื้นที่พิเศษ เพราะถือเป็นประเทศที่มีอัตลักษณ์ไม่เหมือนใครในโลก และนโยบายเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเป็นการเสริมจุดเด่นในระดับภาคและจังหวัด โดยนำยุทธศาสตร์การพัฒนาภาค เมือง และพื้นที่เศรษฐกิจ ภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฯฉบับที่ 12 มาใช้ในการยกระดับคุณภาพการผลิตการบริการในแต่ละภาคให้สูงขึ้น ทั้งนี้ในส่วนกระทรวงศึกษาธิการจึงได้มอบหมายให้ทุกภาคส่วน จัดทำแผนการศึกษาแบบบูรณาการในระดับภาคขึ้น รวม 6 ภาคทั่วประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับการบริหารงบประมาณ และเกิดการการพัฒนาประเทศไปในทิศทางเดียวกัน โดยในวันนี้ได้เริ่มต้นจัดทำแผนการศึกษาแบบบูรณาการที่ภาคตะวันออกฉียงเหนือเป็นภาคแรก เพื่อให้บุคคลากรการศึกษาทุกภาคส่วนร่วมกัน ดึงจุดแข็งและโอกาสต่างๆมาสร้างโครงการต่างๆที่สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ หวังดันอิสานหลุดพ้นจากความยากจนสู่เป้าหมายการพึ่งตนเอง ตามเป้าหมายรัฐบาล
ซึ่งในห้วงที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการก็ได้ระดมส่วนราชการทุกระดับ พร้อมภาคเอกชน ประชาชน ตามกลไกประชารัฐ เพื่อสนับสนุนภารกิจของรัฐบาลในทุกมิติ ร่วมกันจัดทำแผนการศึกษาแบบบูรณาการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ระดับจังหวัด,พื้นที่ชายแดน และพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษต่างๆทั่วประเทศมากว่า 3 ปี โดยมุ่งเน้นจัดการศึกษาให้เต็มศักยภาพผู้เรียน และสอดคล้องกับบริบทพื้นที่ เกิดความเท่าเทียม ทั่วถึง มีคุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ จากความต้องการระดับล่างขึ้นสู่ระดับบน
“ ...เมื่อโลกไม่ใช่ใบเดิม การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วไร้ทิศทาง ประเทศไทยจำเป็นต้องเปลี่ยนผ่านโดยไม่อาจหยุดนิ่ง ทุกแผนการศึกษาที่จะเดินหน้าสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมก็เช่นกัน จะต้องถูกดำเนินการจัดทำแผนที่มีความชัดเจนมาก่อน โดยการน้อมนำศาสตร์ของพระราชาซึ่งถือเป็นแม่แบบวิธีคิดอย่างองค์รวม มาสู่การจัดทำแผนการศึกษาแบบบูรณาการ ซึ่งจะต้องมีการทบทวนและปรับปรุงให้เหมาะสมตามสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และรองรับกับนโยบาย ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20ปี, แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12,นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ,และแผนการศึกษาชาติ เพื่อนำไปปฏิบัติให้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด เพราะเมื่อแผนดี ปฏิบัติดี ผลสัมฤทธิ์ที่ได้ ย่อมดีมาก” พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว
ในส่วนผลการดำเนินการจัดทำแผนการศึกษาที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการได้มีการจัดทำแผนการศึกษาแบบบูรณาการเพื่อพัฒนาพื้นที่พิเศษ และโครงการต่าง ๆ โดยนำการใช้จุดแข็งและโอกาสในแต่ละบริบทพื้นที่ ควบคู่กับมุมมองด้านอุปสรรคหรือปัญหา มาสร้างแผนการศึกษาที่ประกอบไปด้วยโครงการและกิจกรรมต่างๆ ใน 5 พื้นที่พิเศษ คือการจัดการศึกษาแบบบูรณาการในเขตพื้นที่ชายแดน ทั้งหมด 27 จังหวัดการจัดการศึกษาแบบบูรณาการในพื้นที่พัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือจชต. การจัดการศึกษาแบบบูรณาการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” การจัดการศึกษาแบบบูรณาการในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ในพื้นที่ 10 จังหวัด การจัดการศึกษาแบบบูรณาการในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC
ทั้งนี้จากผลการปฏิบัติที่ผ่านมา พบว่าส่งผลให้การดำเนินการของบุคลากรทางการศึกษา มีแผน มีทิศทางร่วมกันคิด ร่วมกันจัดทำแผนขึ้นมา มีผลทำให้ การขับเคลื่อนแผนสำเร็จเห็นผลชัดเจน ต่อนักเรียน นักศึกษา ที่ถูกผลิตออกมา อาทิ สามารถประกอบอาชีพด้วยตนเองได้ สามารถดำเนินธุรกิจต่อเนื่องจากเศรษฐกิจใหญ่ได้ สามารถทำงานได้ในสถานประกอบการ สามารถแข่งขันกับผู้อื่นได้ และในเรื่องการสอบพบว่า คะแนน ONET/ NT ของนักเรียนภาคใต้มีคะแนนดีขึ้นอย่างชัดเจน มีชีวิตการเรียนที่มีความสุข, ในส่วนผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม มีสถานที่ติดต่อเรื่องกำลังคนอาชีวะอย่างชัดเจน มีการขับเคลื่อนที่ภาคผู้ประกอบการอยากเห็น เชื่อมั่นว่าสุดท้ายผู้ประกอบการจากต่างประเทศ จะเกิดความมั่นใจในการจัดการศึกษา เพื่อการจัดหากำลังคนมาทำงานในอุตสาหกรรมเป้าหมายทั้งเก่าและใหม่ได้ ซึ่งอาจถือเป็นการปฏิปการศึกษาในอีกมุมหนึ่งที่หลายฝ่ายอยากเห็น
กระทรวงศึกษาขยายผลทำแผนการศึกษาบูรณาการภาคอิสาน
กระทรวงศึกษาฯรับนโยบายพัฒนาประเทศไทยทุกภูมิภาคเป็นพื้นที่พิเศษ ลดความเหลื่อมล้ำ นำทัพส่วนราชการทุกระดับ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ขยายผลจัดทำแผนบูรณาการด้านการศึกษาระดับภาค ดีเดย์อิสานภาคแรก ดึงจุดแข็งและโอกาสดันอิสานหลุดพ้นจากความยากจนสู่เป้าหมายการพึ่งตนเอง ตามเป้าหมายรัฐบาล
พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.กระทรวงศึกษาธิการ กล่าวในโอกาสการประชุมปฏิบัติการจัดทำแผนการศึกษาแบบบูรณาการระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ จ.อุดรธานี ว่า จากนโยบายของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญในการพัฒนาประเทศไทย ด้วยการเดินหน้าพัฒนาโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ให้ทุกพื้นที่ของประเทศไทยเป็นพื้นที่พิเศษ เพราะถือเป็นประเทศที่มีอัตลักษณ์ไม่เหมือนใครในโลก และนโยบายเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเป็นการเสริมจุดเด่นในระดับภาคและจังหวัด โดยนำยุทธศาสตร์การพัฒนาภาค เมือง และพื้นที่เศรษฐกิจ ภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฯฉบับที่ 12 มาใช้ในการยกระดับคุณภาพการผลิตการบริการในแต่ละภาคให้สูงขึ้น ทั้งนี้ในส่วนกระทรวงศึกษาธิการจึงได้มอบหมายให้ทุกภาคส่วน จัดทำแผนการศึกษาแบบบูรณาการในระดับภาคขึ้น รวม 6 ภาคทั่วประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับการบริหารงบประมาณ และเกิดการการพัฒนาประเทศไปในทิศทางเดียวกัน โดยในวันนี้ได้เริ่มต้นจัดทำแผนการศึกษาแบบบูรณาการที่ภาคตะวันออกฉียงเหนือเป็นภาคแรก เพื่อให้บุคคลากรการศึกษาทุกภาคส่วนร่วมกัน ดึงจุดแข็งและโอกาสต่างๆมาสร้างโครงการต่างๆที่สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ หวังดันอิสานหลุดพ้นจากความยากจนสู่เป้าหมายการพึ่งตนเอง ตามเป้าหมายรัฐบาล
ซึ่งในห้วงที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการก็ได้ระดมส่วนราชการทุกระดับ พร้อมภาคเอกชน ประชาชน ตามกลไกประชารัฐ เพื่อสนับสนุนภารกิจของรัฐบาลในทุกมิติ ร่วมกันจัดทำแผนการศึกษาแบบบูรณาการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ระดับจังหวัด,พื้นที่ชายแดน และพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษต่างๆทั่วประเทศมากว่า 3 ปี โดยมุ่งเน้นจัดการศึกษาให้เต็มศักยภาพผู้เรียน และสอดคล้องกับบริบทพื้นที่ เกิดความเท่าเทียม ทั่วถึง มีคุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ จากความต้องการระดับล่างขึ้นสู่ระดับบน
“ ...เมื่อโลกไม่ใช่ใบเดิม การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วไร้ทิศทาง ประเทศไทยจำเป็นต้องเปลี่ยนผ่านโดยไม่อาจหยุดนิ่ง ทุกแผนการศึกษาที่จะเดินหน้าสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมก็เช่นกัน จะต้องถูกดำเนินการจัดทำแผนที่มีความชัดเจนมาก่อน โดยการน้อมนำศาสตร์ของพระราชาซึ่งถือเป็นแม่แบบวิธีคิดอย่างองค์รวม มาสู่การจัดทำแผนการศึกษาแบบบูรณาการ ซึ่งจะต้องมีการทบทวนและปรับปรุงให้เหมาะสมตามสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และรองรับกับนโยบาย ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20ปี, แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12,นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ,และแผนการศึกษาชาติ เพื่อนำไปปฏิบัติให้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด เพราะเมื่อแผนดี ปฏิบัติดี ผลสัมฤทธิ์ที่ได้ ย่อมดีมาก” พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว
ในส่วนผลการดำเนินการจัดทำแผนการศึกษาที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการได้มีการจัดทำแผนการศึกษาแบบบูรณาการเพื่อพัฒนาพื้นที่พิเศษ และโครงการต่าง ๆ โดยนำการใช้จุดแข็งและโอกาสในแต่ละบริบทพื้นที่ ควบคู่กับมุมมองด้านอุปสรรคหรือปัญหา มาสร้างแผนการศึกษาที่ประกอบไปด้วยโครงการและกิจกรรมต่างๆ ใน 5 พื้นที่พิเศษ คือการจัดการศึกษาแบบบูรณาการในเขตพื้นที่ชายแดน ทั้งหมด 27 จังหวัดการจัดการศึกษาแบบบูรณาการในพื้นที่พัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือจชต. การจัดการศึกษาแบบบูรณาการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” การจัดการศึกษาแบบบูรณาการในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ในพื้นที่ 10 จังหวัด การจัดการศึกษาแบบบูรณาการในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC
ทั้งนี้จากผลการปฏิบัติที่ผ่านมา พบว่าส่งผลให้การดำเนินการของบุคลากรทางการศึกษา มีแผน มีทิศทางร่วมกันคิด ร่วมกันจัดทำแผนขึ้นมา มีผลทำให้ การขับเคลื่อนแผนสำเร็จเห็นผลชัดเจน ต่อนักเรียน นักศึกษา ที่ถูกผลิตออกมา อาทิ สามารถประกอบอาชีพด้วยตนเองได้ สามารถดำเนินธุรกิจต่อเนื่องจากเศรษฐกิจใหญ่ได้ สามารถทำงานได้ในสถานประกอบการ สามารถแข่งขันกับผู้อื่นได้ และในเรื่องการสอบพบว่า คะแนน ONET/ NT ของนักเรียนภาคใต้มีคะแนนดีขึ้นอย่างชัดเจน มีชีวิตการเรียนที่มีความสุข, ในส่วนผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม มีสถานที่ติดต่อเรื่องกำลังคนอาชีวะอย่างชัดเจน มีการขับเคลื่อนที่ภาคผู้ประกอบการอยากเห็น เชื่อมั่นว่าสุดท้ายผู้ประกอบการจากต่างประเทศ จะเกิดความมั่นใจในการจัดการศึกษา เพื่อการจัดหากำลังคนมาทำงานในอุตสาหกรรมเป้าหมายทั้งเก่าและใหม่ได้ ซึ่งอาจถือเป็นการปฏิปการศึกษาในอีกมุมหนึ่งที่หลายฝ่ายอยากเห็น